#ชี้เป้า Shopee vs Lazada ขายของออนไลน์ที่ไหนดีนะ?
ขายของออนไลน์บน Shopee หรือ Lazada แบบไหนดียังไงบ้างนะ
หนึ่งอาชีพที่เริ่มทำได้ง่าย แม้เราจะมีงานประจำแล้วก็ตาม
นั่นก็คือการเป็นแม่ค้าออนไลน์นั่นเองง
ใครที่กำลังมองหาลู่ทางในการขายของออนไลน์ต้องอ่านให้จบนะ
เพราะเราจะมาเปิดช่องทางการขายบนเว็บขายของออนไลน์ชื่อดังอย่าง Shopee และ Lazada
ที่เราสามารถนำสินค้าไปลงขายบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้ด้วย
เราจะมาศึกษากันว่าแต่ละเว็บนั้นมีความแตกต่างยังไงบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยจ้าา
ข้อดีของการขายบนเว็บขายของออนไลน์
- มีคนเห็นสินค้าของเราได้มากขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจ น่าเชื่อถือให้กับร้านของเรา
- สามารถเข้าร่วมโปรลดราคาต่าง ๆ กับตัวเว็บได้
เมื่อรู้ว่าช่องทางการขายออนไลน์นี้มันดียังไงแล้ว
เรามาดูความแตกต่างของ 2 เว็บนี้กันดีกว่า ว่าจะมีส่วนได้ส่วนเสียต่างกันยังไงบ้างนะ
ขายของออนไลน์กับ Shopee
เริ่มกันที่เว็บช้อปปี้กันก่อน สำหรับเจ้านี้เป็นเจ้าที่มีทั้งในรูปแบบแอปและเว็บไซต์
รู้จัก Shopee ให้มากขึ้นที่นี่เลยนะ : https://article.redprice.co/shopee-shopping-online/
สมัครเป็นร้านค้าได้ฟรี แต่มีค่าคอมมิชชั่นในการขายสิน
โดยมีค่าคอมมิชชั่น 3% สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
และค่าคอมมิชชั่น 5% สำหรับสินค้าหมวดอื่น ๆ นอกเหนือจากหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
จะมีส่วนที่หักจากสินค้าเรานั่นก็คือค่าธรรมเนียมการจ่ายเงินของลูกค้าเป็นจำนวน 2%
ไม่ว่าลูกค้าจะชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต, ชำระเงินปลายทาง, iBanking Payment, ATM
และ การโอน/ชำระผ่านธนาคาร ก็หักค่าธรรมเนียม 2% เท่ากันหมดเลยจ้า
ในด้านของระบบการเงิน เราสามารถตั้งบัญชีธนาคารสำหรับรับเงินได้หลายธนาคาร
จะได้รับเงินหลังจากที่การขายสินค้าเสร็จสมบูรณ์ และเราส่งของให้ลูกค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เงินของเราจะเข้ามาอยู่ในส่วน Seller Balance ซึ่งเราจะสามารถโอนเงินเข้าธนาคารได้ถึง 2 วิธีด้วยกัน
– ตั้งโอนเข้าบัญชีแบบอัตโนมัติทุก ๆ วันพุธหรือเดือนละครั้ง
– ถอนเงินเข้าบัญชีด้วยตัวเอง
ซึ่งเราสามารถถอนเงินได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ จ้าา
มาถึงส่วนการจัดการร้านค้าภายใน Shopee กันบ้าง
มีระบบ Seller Centre สำหรับจัดการร้านค้าเต็มรูปแบบ
สามารถจัดการร้านค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็วและเป็นระเบียบสุด ๆ
มาไล่ดูกันอย่างละเอียดแล้ว มีระบบการใช้งานหลายอย่างที่น่าสนใจเลย เช่น
ระบบเรียงลำดับออเดอร์ ที่จะช่วยให้เราเห็นออเดอร์ที่ต้องส่งก่อนหลัง
และยังดาวน์โหลดชื่อที่อยู่ลูกค้ามาปริ้นท์ได้เลยด้วยนะ!
ติดตามสถานะการจัดส่งได้โดยตรงในแอพและเว็บเพื่อออเดอร์ที่ไม่ตกหล่น
อีกหนึ่งความพิเศษก็คือ สามารถสร้างโค้ดโปรโมชั่นหรือจัดโปรโมชั่นของร้านเองได้
และยังสามารถเข้าร่วมแคมเปญลดราคาดัง ๆ ของเว็บเพื่อเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย
เป็นการโปรโมทร้านไปในตัวด้วยนะ
สามารถดูยอดเข้าถึงร้านค้าเพื่อดูแนวโน้มและวางแผนการขายในอนาคตต่อได้ในหัวข้อ My Data
วิเคราะห์ข้อมูลและทำการตลาดแบบมืออาชีพได้เลยจ้า เรียกได้ว่าครบครันสุด ๆ!
Shopee รองรับการจัดส่งแบบไหนบ้าง?
ในตอนนี้สามารถจัดส่งได้กับช่องทางต่อไปนี้
Ninja Van | DHL | Kerry | ไปรษณีย์ไทย (ลงทะเบียน , EMS) | J&T
โดยผู้ขายสามารถเลือกการจัดส่งที่สะดวกและตั้งราคาจัดส่งได้ด้วยตัวเองเลย
ขายของออนไลน์กับ Lazada
มาถึงอีกหนึ่งช่องทางการขายของออนไลน์ที่โด่งดังไม่แพ้กัน
กับ Lazada ที่มีทั้งในรูปแบบแอพและเว็บไซต์เช่นกัน
รู้จัก Lazada ให้มากขึ้นที่นี่เลยนะ : https://article.redprice.co/lazada-shopping-online/
สามารถสมัครเป็นร้านค้าในฟรี ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการขายสินค้าเช่นกัน
และไม่มีค่าธรรมเนียมในการชำระเงินของลูกค้าไม่ว่าจะผ่านช่องทางใดก็ตาม
ในส่วนของระบบการเงิน ก็จะคล้ายคลึงกันกับ Shopee
คือจะได้รับเงินหลังจากที่การขายสินค้าเสร็จสมบูรณ์ และเราส่งของให้ลูกค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เงินของเราจะเข้ามาอยู่ในส่วนบัญชีส่วนตัว ซึ่งเราจะสามารถโอนเงินเข้าธนาคารแบบอัตโนมัติ
ซึ่งจะตัดยอดทุก ๆ วันอาทิตย์ของสัปดาห์ และเข้าบัญชีธนาคารที่เราตั้งไว้ในวันพุธ
โดยมีหักค่าธรรมเนียมโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร 2% และหัก Vat 7% ด้วยกันน้า
สามารถโปรโมทสินค้าแบบซื้อโฆษณาผ่าน Sponsored Products ได้
โดยการจ่ายเงินตามผลโฆษณาของเราได้เลย ซึ่งจะทำให้คนเห็นสินค้าของเราเพิ่มมากขึ้น
ดูผลการขายสินค้าของเราได้ที่ส่วน การวิเคราะห์ธุรกิจ
ซึ่งจะทำให้เราเห็นยอดขาย ยอดคนเข้าชมสินค้าเพื่อนำมาปรับกลยุทธ์การขายได้อีกด้วย
สามารถสร้างคูปองและโปรโมชั่นลดราคาส่งเสริมการขายได้ด้วยตัวเอง
และเข้าร่วมโปรโมชั่นที่น่าสนใจกับทางเว็บได้ด้วย ทำให้คนเห็นร้านค้าเรามากขึ้น และขายสินค้าได้มากขึ้นด้วยนะ
ในด้านการจัดการคำสั่งซื้อก็สามารถติดตามสถานะการจัดส่งและออเดอร์ต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ
และยังดาวน์โหลดออเดอร์ทั้งหมดเป็นไฟล์เพื่อนำชื่อที่อยู่ออกมาอย่างเป็นระบบได้ด้วย
Lazada รองรับการจัดส่งแบบไหนบ้าง?
ในตอนนี้สามารถจัดส่งได้กับช่องทางต่อไปนี้
– การจัดส่งสินค้าแบบเข้ารับ (Pick-up)
สามารถแจ้งเพื่อให้ลาซาด้ามารับสินค้าเพื่อนำส่งสินค้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้ารับสินค้าเพิ่ม
จะมีแค่ค่าขนส่งไปยังลูกค้าเท่านั้น ซึ่งจะมีราคาการจัดส่งตามนี้เลย
– การจัดส่งสินค้าแบบ Drop-off
โดยสามารถนำส่งได้ที่จุดนำส่งของไปรษณีย์, Kerry Express, DHL และ LEX
โดยผู้ขายสามารถเลือกการจัดส่งที่สะดวกและตั้งราคาจัดส่งได้ด้วยตัวเองเลย สามารถดูวิธีการส่งได้ที่นี่เลย คลิก
ส่วนราคาจัดส่งสามารถดูได้ตรงนี้เลย
