#ชี้เป้า How to รีฟันด์ค่าตั๋วเครื่องบินยังไง ให้ได้เงินคืนแน่นอน ฉบับ Traveloka ✈️💳
กรณีที่ไม่สามารถขอรีฟันด์ตั๋วเครื่องบินได้

วิธีการขอคืนเงินภาษีสนามบิน
- ชื่อ-นามสกุล ผู้จอง
- รายละเอียดเที่ยวบิน จากต้นทาง-ปลายทาง หรือหมายเลขการจอง
- หมายเลขตั๋วเครื่องบิน
- เบอร์ติดต่อกลับให้ครบถ้วน (กรณีที่จองผ่านตัวแทนจำหน่ายอาจจะต้องติดต่อสอบถามตัวแทนจำหน่ายก่อน)
กรณีที่สามารถขอรีฟันด์ตั๋วเครื่องบินได้
- ประเทศปลายทางประกาศปิดระเทศเนื่องจากผลกระทบของ Covid-19 ทำให้สายการบินไม่สามารถเดินทางได้และเนื่องจากประเทศปลายทางไม่อนุญาต ทำให้สายการบินต้องยกเลือกเที่ยวบินหรือเลื่อนไฟล์ท ส่วนใหญ่แล้วถ้าเกิดกรณีนี้ขึ้นทางสายการบินจะมีนโยบายขอคืนเงินได้ตามระยะเวลาที่สายการบินกำหนด
- ตั๋วเครื่องบินที่ระบุในการจองว่าสามารถขอคืนเงินได้ ไม่ใช่ตั๋วทุกประเภทจะสามารถขอรีฟันด์เงินคืนได้น้า แต่ถ้าเราซื้อตั๋วที่ระบุการจองมาแน่ชัดแล้วว่าสามารถรีฟันด์เงินคืนได้ ก็จะสามารถยื่นคำร้อง และติดต่อเจ้าหน้าที่ของสายการบินนั้นได้ทันทีเลยค่ะ


ขั้นตอนการจองการันตีคืนเงิน ผ่านเว็บไซต์/แอปพลิเคชั่น “Traveloka”

วิธีขอเงินคืนการันตีคืนเงิน ผ่านเว็บไซต์/แอปพลิเคชั่น “Traveloka”
1. ไปที่ “การจองของฉัน” เลือกตั๋วที่ต้องการขอคืนเงิน และกด “ขอคืนเงิน”

2. เลือกเหตุผลการขอคืนเงิน และผู้โดยสาร

3. ระบุรายละเอียดการขอคืนเงิน และยื่นเอกสาร

4. ยื่นคำร้องขอคืนเงิน

5. ตรวจสอบสถานะการขอคืนเงิน

ซึ่งข้อดีของการใช้ Refund Guarantee จาก Traveloka ก็มีหลายอย่างเลยนะ ทั้งทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าจะได้เงินคืนมากถึง 80% ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยในการเดินทางหรือเหตุผลอื่น ๆ และผู้โดยสารก็สามารถประมาณจำนวนเงินที่ได้รีฟันด์คืนได้ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือหน้าเว็บไซต์ได้เลย ขั้นตอนการขอคืนก็ไม่ยุ่งยาก ใช้งานง่ายสะดวก รวดเร็ว ภายในไม่กี่ขึ้นตอนเลยจ้า

ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีขอรีฟันด์เงินฉบับ Traveloka ที่สามารถทำได้ง่ายๆ สะดวก และรวดเร็ว
ถูกใจนักเดินทางแน่นอน แต่ถ้าหากมีข้อสงสัยอื่นๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดจากสายการบิน
หรือบริษัทที่ซื้อตั๋วเครื่องบินมาได้โดยตรง เนื่องจากนโยบาย และเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
มีขั้นตอบในการยื่นคำร้องที่แตกต่างกันออกไป
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ >>
https://www.traveloka.com/th-th/flight/ticket-flexibility/