#ชี้เป้า ฮาวทูสั่งของจากต่างประเทศเข้าไทย เสียภาษียังไงกัน?
สายช้อประดับ Advance ที่ช้อปในไทยไม่สะใจ
ช้อปออนไลน์ไกลๆจากต่างประเทศไปเลยจ้า
ไม่ว่าจะเป็นสายช้อปเครื่องสำอาง เสื้อผ้า อัลบั้ม กู้ดสุดปังจากศิลปินเกาหลี
ไม่ต้องผ่านร้านพรีให้หวั่นโดนโกง เพราะกดส่งมาได้เองเลย
แต่การสั่งของจากต่างประเทศเข้ามาไทยนั้น
ก็มีสิ่งหนึ่งที่สายช้อปต่างประเทศทุกคนต้องเข้าใจไว้
นั่นก็คือ ภาษีนำเข้า ที่เราทุกคนต้องเจอเมื่อสั่งของจากต่างประเทศ
มันเป็นยังไง รู้ได้ยังไงว่าต้องจ่าย แล้วต้องจ่ายเท่าไหร่
บทความนี้ชี้เป้ามีคำตอบจ้า
ภาษีนำเข้าคืออะไร? เมื่อไหร่ต้องจ่าย?
ภาษีนำเข้าจะเกิดขึ้น เมื่อเราซื้อของจากต่างประเทศกลับมายังไทย
หรือสั่งซื้อของออนไลน์ที่ส่งมาจากต่างประเทศ
ถ้าของที่เรานำเข้าไทยมานั้น มีมูลค่าสูงเกินที่กำหนดไว้
เราจะต้องจ่ายภาษีเพื่อนำของชิ้นนั้นเข้าประเทศ
อัตราภาษีนำเข้าของแต่ละประเภท
30% : เครื่องสำอาง หมวก น้ำหอม รองเท้า ผ้าห่ม ร่ม
20% : กระเป๋า
10% : CD DVD อัลบั้ม คอนเสิร์ต (ต้องเป็นสื่อบันทึกที่มีข้อมูล) Power Bank หูฟัง Headphone Earphones ตุ๊กตา
5% : นาฬิกา แว่นตา แว่นกันแดด
ยกเว้นภาษี แต่เสีย VAT 7% : นิตยสาร Photobook คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ เมาส์
คำนวณภาษียังไง
จำนวนเงินที่จะนำมาคิดภาษีนั้นจะมาจาก
ราคาสินค้า+ค่าจัดส่ง+ค่าประกันภัยโดยมีเกณฑ์ง่ายๆตามนี้เลย
รวมกันไม่เกิน 1,500 บาท ไม่ต้องจ่ายภาษี
รวมกันแล้วเกิน 1,500 บาทขึ้นไป ต้องจ่ายภาษี
ถ้าเราโดนภาษี เราจะมีภาษีที่ต้องจ่าย 2 ยอดด้วยกัน คือ
ภาษีนำเข้า = ขึ้นอยู่กับประเภทของสิ่งของ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) = 7%
โดยเราสามารถคำนวณภาษีได้ด้วยตัวเอง กับสูตรง่ายๆ สูตรนี้เลย
ค่าสินค้ารวมค่าส่ง x อัตราภาษีนำเข้า (%) = ภาษีนำเข้า
ค่าสินค้ารวมค่าส่ง + ภาษีนำเข้าที่ต้องจ่าย x vat 7% = ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม
เช่น เราซื้ออัลบั้มรวมค่าส่งมาในราคา 2,000 บาท ดังนั้นภาษีนำเข้าจะคิดเป็น 10%
จะคำนวณค่าภาษีนำเข้าที่ต้องจ่ายได้เป็น 2,000 x 10% = 200 บาท
และคำนวณค่าภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น (2,000 + 200) x 7% = 154 บาท
รวมค่าภาษีที่เราต้องจ่ายทั้งหมดคือ 200+154 = 354 บาท นั่นเอง
จะรู้ได้ไงว่าเราจะต้องจ่ายภาษี?
สามารถเช็คเลข Tracking สิ่งของที่ส่งมากับไปรษณีย์ไทย
ผ่านแอป Track & Trace หรือผ่าน https://track.thailandpost.co.th/
หากเราจะต้องจ่ายภาษี จะเจอกับสถานะนำจ่ายไม่สำเร็จโดยให้เหตุผลว่า ออกใบแจ้ง
จากนั้นก็เตรียมรอใบแจ้งสีเขียวๆส่งมาถึงบ้านได้เลย
โดยใบแจ้งที่เราได้รับจะประกอบด้วยข้อมูลหลัก ๆ ที่เราต้องรู้ คือ
– ไปรษณีย์ที่เราต้องไปรับของ
– ยอดรวมภาษีที่ต้องจ่าย
ซึ่งยอดรวมภาษีที่แจ้งมาจะเป็นการประเมินภาษีโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากร
อาจจะตรงบ้างไม่ตรงบ้าง ต้องลุ้นกันไป
ในกรณีที่ประเมินภาษีมาไม่เกินจริง สามารถเลือกจ่ายได้ทันที
แต่ในกรณีที่ต้องเจอการประเมินภาษีที่เกินจริง ก็สามารถจ่ายได้เลยเช่นกัน
แต่ถ้าใครเสียดายเงินละก็ เรามีวิธีโต้แย้งที่นี่เลย
ภาษีเมื่อถูกประเมินภาษีเกินจริง
วิธีการจ่ายภาษี
หลังจากที่เราได้รับใบแจ้งสีเขียวเรียบร้อยแล้ว เราสามารถจ่ายได้ 2 วิธีด้วยกัน
จ่ายเองที่ไปรษณีย์
สามารถนำไปจ่ายได้ที่ไปรษณีย์ที่แจ้งไว้ได้เลย
โดยสิ่งที่ต้องนำไปด้วยนั่นก็คือบัตรประชาชนของเจ้าของพัสดุ
ใครที่ไปรับแทนคนอื่นจะต้องกรอกข้อมูลมอบอำนาจหลังใบเขียว
พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของด้วยนะ
จ่ายผ่านแอป wallet@POST
ตอนนี้ไปรษณีย์เขามีบริการใหม่ที่จะทำให้การจ่ายภาษีง่ายขึ้นอีกเยอะ
เพียงเข้าไปโหลดแอป wallet@POST ผ่าน Apple Store และ Play Store
เติมเงินเข้าไปในวอลเลตโดยสามารถเติมเงิน
ผ่าน 123 เซอร์วิส และ Mobile Banking ได้เลย
จากนั้นเลือกที่จ่ายบิล เลือกบิลที่จ่ายเป็นศุลกากร
จากนั้นกรอกเลข Tracking ที่เราต้องจ่ายเงิน
เท่านี้ก็สามารถรอรับของได้ที่บ้านได้เลย ไม่ต้องออกจากบ้านสักก้าว
ถูกประเมินราคาเกินจริง ทำยังไงดี?
เปิดราคาประเมินจากศุลกากรแล้วลมแทบจับ
ประเมินเกินที่ความเป็นจริงไปเยอะ ไม่ต้องตกใจนะ
เรามีทางแก้ไขมาฝากกันแน่นอน
ตั้งสติให้มั่นแล้วเตรียมหลักฐานตามนี้เลย
– หลักฐานการจ่ายเงินทั้งหมดที่เราจ่ายไป
ไม่ว่าจะเป็นบิลออนไลน์ สลิปการตัดเงิน ใบเสร็จบัตรเครดิต อีเมล และอื่นๆ
– เรทการค่าเงินแปลงเป็นเงินไทยในวันที่จ่ายเงิน
– สำเนาบัตรประชาชน
– ใบแจ้งภาษีที่ต้องการประเมินใหม่
จากนั้นดาวน์โหลดไฟล์เขียนคำร้องเพื่อให้ประเมินใหม่
ปริ้นท์ออกมาแล้วกรอกข้อมูลตามความเป็นจริงได้เลย
รวมเอกสารทั้งหมดในข้างต้นไปยื่นที่ไปรษณีย์ตามในใบแจ้ง
เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องและส่งของไปประเมินราคาใหม่อีกครั้งตามที่เรายื่นมา
ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 14-30 วัน
ทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อเรากลับมา
เพื่อแจ้งราคาที่ประเมินใหม่เพื่อให้เราไปจ่ายภาษี และรับของกลับอย่างสวัสดิภาพ
สามารถไปจ่ายได้ด้วยตัวเองที่ไปรษณีย์
หรือจ่ายผ่ายแอป wallet@POST ที่พูดถึงไปแล้วได้เช่นกันนะ
กลับไปดูวิธีการจ่ายเงินผ่านแอป