#ชี้เป้า Apple Music VS Joox ฟังเพลงจากแอปไหน ใช่กว่ากัน?

#ชี้เป้าไลฟ์สไตล์ May 2, 2017

#ชี้เป้า Apple Music VS Joox ฟังเพลงจากแอปไหน ใช่กว่ากัน?

แอปนึงที่ขาดไม่ได้ในมือถือเราคงหนีไม่พ้นแอปฟังเพลงแน่ๆ และถ้าพูดถึงแอปฟังเพลงที่ถูกลิขสิทธิ์อันดับต้นๆ ของคนชอบฟังเพลงก็คงจะเป็น Apple Music และ Joox วันนี้ #ชี้เป้า จะพาไปสำรวจกันชัดๆ ว่า 2 แอปนี้มีความแตกต่างกันตรงไหน ยังไงบ้าง แอปไหนจะเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่สุด มาเช็กไปพร้อมกันเลย!
 

Apple Music

apple-music
แอปฟังเพลงที่ถูกปล่อยออกมาจาก Apple ที่เปิดให้บริการในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งเป็นแอปฟังเพลงขนาดใหญ่ที่มีเพลงเยอะมาก ที่ให้บริการบน Android ด้วย
 
ใช้งานได้ที่ : iOS , Android , Mac , Apple TV และ PC
ช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรี : 3 เดือน
ค่าบริการหลังหมดช่วงทดลองใช้ :

  • สมาชิกแบบบุคคล (Individual Membership) – 129฿/เดือน

แพคเกจแบบใช้งานคนเดียว สามารถฟังเพลงทุกเพลงใน Apple Music

  • สมาชิกแบบครอบครัว (Family Sharing Membership) – 199฿/เดือน

แพคเกจแบบครอบครัว สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 6 คน สามารถจัดการให้เด็กๆ ฟังเพลงและใช้จ่ายอย่างเหมาะสม

  • สมาชิกแบบนักศึกษา (University Membership) – 69฿/เดือน

แพคเกจราคาคุ้ม ๆ สำหรับนักศึกษา จะได้รับส่วนลดนานสูงสุด 48 เดือน (4 ปี) โดยปีที่สมัครไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน แต่จะต้องมีชื่ออยู่ในมหาวิทยาลัยในระหว่างที่ซื้อแพคเกจนี้
แพคเกจทั้งหมดสามารถจ่ายเงินผ่านการตัดบัตรเครดิตหรือเดบิตได้เท่านั้น
Untitled-1
 
วิธีการรับสิทธิ์ฟรี :
Untitled-2
แนวเพลงที่จะเจอได้ใน Apple Music : เป็นเพลงที่มีอยู่ใน iTunes เกือบทุกเพลง ส่วนใหญ่เป็นเพลงสากล เพลงไทยก็จะมีให้เลือกฟังเยอะเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ได้ครอบคลุมมากมายในหลาย ๆ แนวเพลงของไทย เพลงชาติอื่นอย่างเกาหลี ญี่ปุ่น หรือจีนก็มีให้เลือกฟังด้วย เพลงใหม่ๆ ค่อนข้างอัพเดตไวมาก และเพลงเก่าหลายปีก่อน ๆ ค่อนข้างมีเยอะพอสมควร
อ๋อ ข้อสังเกตข้อนึงคือ ยังไม่มีเพลงค่าย RS ให้ฟังในแอปนี้นะ
 
การใช้งานเบื้องต้น :
หน้าตาภายในแอประหว่าง iOS กับ Android จะมีการจัดวางเมนูต่างๆ แตกต่างกันนิดหน่อย แต่ก็มีเมนูให้ใช้งานเหมือน ๆ กันเลย
am

  • โดยเมนูแรกที่แนะนำคือ For You จะเห็นการจัด Playlist ประจำวันที่ใกล้เคียงกับความสนใจของเรา หรือแนะนำเพลงหรืออัลบั้มที่เราน่าจะสนใจ
  • ที่แท็บ Browse บน Android หรือแท็บ New บน iOS จะมีเพลงใหม่ๆ ให้เราฟัง รวมไปถึงเพลงที่ติดชาร์ต และเพลย์ลิสท์ที่น่าสนใจ
  • ในเมนู Connect จะรวบรวมอัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับเพลงของศิลปินที่เราติดตาม
  • เมนู Radio เป็นส่วนที่ฟังวิทยุได้แบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายถึงแม้จะไม่สมัครสมาชิกก็ตาม มีให้เลือกฟังตามสไตล์ที่ชอบได้ด้วย
  • เมนูสุดท้าย เมนู My Music ใน iOS หรือเมนู Library ใน Android ที่จะเป็นแหล่งรวมเพลงที่เราเก็บไว้เป็นเพลย์ลิสท์ และเพลงที่เราโหลดไว้ฟัง Offline

 
ฟังเพลงแบบ Offline : สามารถโหลดไว้ฟังตอนที่ไม่มีเน็ตใช้ได้ด้วย ทั้งเวอร์ชั่น iOS , Android , Mac และ PC โดยมีวิธีการโหลดดังนี้
11_1
 

Joox

joox-1-600x290
แอปฟังเพลงออนไลน์อีกแอปที่มีต้นกำเนิดมาจากเว็บ Sanook และเป็นที่นิยมค่อนข้างมาก ด้วยการก่อตั้งขึ้นมาในประเทศไทย แอปนี้เลยมีภาษาไทยให้ใช้ตลอดทั้งแอปด้วย ซึ่งก็ไม่ต้องงมหนักมากนั่นเอง
 
ใช้งานได้ที่ : iOS , Android
ช่วงเวลาทดลองใช้งานฟรี : ฟังฟรีตลอด ยกเว้นเพลงที่เป็น VIP จำกัดเฉพาะคนที่เสียเงินหรือทำตามกติกาของ Joox เพื่อรับสิทธิ์ฟรีเท่านั้น ซึ่งสามารถสมัครใช้ได้ง่ายๆ ผ่าน Facebook หรือ WeChat
12
ค่าบริการส่วนของ VIP :
ในส่วนของ VIP จะมีทั้งแบบฟรี และแบบจ่ายเงิน ซึ่งจะมีวิธีการรับสิทธิ์ฟรีง่ายๆ แบบนี้ค่ะ

  • การแชร์ประจำวัน – VIP 2 ชั่วโมง

สามารถเลือกแชร์เพลงที่ชอบโดยการกดแชร์ไปที่ Facebook หรือ Wechat แค่นี้ก็จะได้รับสิทธิ์ฟังเพลงไม่อั้น 2 ชั่วโมง (เมื่อก่อนได้ถึง 1 วันเลยล่ะ) พอสิทธิ์ VIP หมดปุ๊ปก็สามารถแชร์รับสิทธิ์ใหม่ได้อีกทันที

  • ฟังเพลงผ่านเว็บไซต์ Sanook Music – VIP 5 วัน

อยากได้วันเพิ่มถึง 5 วัน ก็สามารถรับสิทธิ์ได้โดยการล็อคอิน Joox บนเว็บไซต์ music.sanook.com บนเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น แถมยังฟังเพลงบนเว็บไซต์ได้อีกด้วยนะ

  • ชวนเพื่อน – VIP 30 วัน

รับสิทธิ์ VIP 30 วันเมื่อชวนเพื่อนให้ดาวน์โหลดแอปและลงทะเบียนเป็น VIP งานนี้เพื่อนก็ได้ไปเลย 35 วันเหมือนกันนะ
vip1
 
ส่วนเสียเงินก็จะมีให้เลือกแพคเกจตั้งแต่ 1 อาทิตย์ไปจนถึง 1 ปีเลยทีเดียว โดยมีตารางราคาดังนี้ค่ะ
14
ซึ่งสิทธิ์ประโยชน์นอกเหนือจากการได้ฟังเพลงที่เป็น VIPแล้ว ก็ยังสามารถฟังต่อเนื่องโดยไม่มีโฆษณาคั่น และยังมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นอีกด้วย
ในส่วนของการจ่ายเงินก็สามารถจ่ายเงินผ่านการตัดบัตรเครดิตหรือเดบิตได้เท่านั้น
 
**ตอนนี้ Joox มีโปรสำหรับคนที่สมัคร VIP ครั้งแรก รับเพิ่มอีก 14 วัน ซื้อมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป รับเพิ่มเป็น 5 เดือนไปเลย ใครยังไม่เคยซื้อ VIP ก็ลองกันได้นะ
 
 
แนวเพลงที่จะเจอได้ใน Joox : ส่วนใหญ่เป็นเพลงไทยมากกว่าครึ่ง ซึ่งจะมีแนวเพลงของไทยที่หลากหลายกว่า Apple Music และเพลงไทยจะอัพเดตเยอะและเร็วมาก มีแทบจะทุกค่ายเลย ต่างจาก Apple Music ทางฝั่งเพลงสากลก็มีการอัพเดตไวพอสมควรเช่นกัน แต่กลับกันคือ เพลงฝั่งเอเชียอย่างเกาหลี ญี่ปุ่น หรือจีนจะมีเพลงออกมาค่อนข้างช้า และเพลงเก่าๆ บางเพลงก็ไม่สามารถหาจาก Joox ได้ ถ้าเทียบกับ Apple Music
 
การใช้งานเบื้องต้น :
jm

  • เปิดมาหน้าแอปปุ๊ป จะเจอกับ Discover ก็มีให้เราเลือกฟังได้เป็นหมวดๆ
  • Joox เรดิโอที่มีแบ่งไปตามธีม ตามแนวเพลง ให้ได้ฟังกันตามอารมณ์
  • อยากฟังเพลงฮิตติดชาร์ตก็มี Top Charts ให้เลือกฟังเป็นลิสต์ๆ เพลง Indie ยังมีเลยนะ
  • Theme Playlist ฟังเพลงตามธีม ตามอารมณ์ จัดมาเป็นเพลย์ลิสท์
  • รวมฮิตศิลปินดัง ชอบเพลงของใครเป็นพิเศษก็ฟังแบบยกทุกอัลบั้มเลยก็ยังได้
  • ถ้าฟังเพลงแล้วอยากหาบทความดี ๆ อ่าน ก็มีคอลัมน์เพลงให้อ่านกันแบบเพลินๆด้วยนะ

 
ฟังเพลงแบบ Offline : Joox เองก็มีให้โหลดเพลง โดยมีวิธีการโหลดดังนี้
Untitled-4
 

Apple Music VS Joox Music
สรุปแล้ว ต่างกันตรงไหนนะ?

 
แนวเพลงของสองแอปนี้มีความต่างกันอยู่ระดับนึงเลย

  • ใครที่ชอบเพลงสากล ออกแนวเพลงต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่แนะนำ Apple Music เลย เพราะมีเพลงสากลเยอะมาก เพลงใหม่ก็จะออกไวกว่า
  • ใครชอบฟังเพลงไทยแนวป๊อป ร็อค ลูกทุ่ง อินดี้ ฝั่ง Joox จะมีค่อนข้างครบกว่า เทียบกับฝั่ง Apple Music ที่ไม่มีเพลงค่าย RS เลย แต่ข้อดีเล็กน้อยในการเลือกฟัง Apple Music คือเพลงของแต่ละศิลปินค่อนข้างครบกว่า
  • ใครชอบสายเกาหลี ญี่ปุ่น จีน มีให้ฟังทั้งสองฝั่ง แต่ถ้าเทียบกันแล้ว Apple Music จะมีเพลงครบกว่า ฝั่งทาง Joox ค่อนข้างจะหาเพลงฝั่งเอเชียได้น้อยกว่าเยอะเหมือนกัน

 
เรามาลองเทสการหาเพลงให้ดูกันว่าสองแอปนี้ต่างกันยังไง!
22
23
จะเห็นว่าจากการเทส ใน Apple Music จะไม่มีเพลงไทยของค่าย RS เลย ส่วนใน Joox จะมีเพลงสากล เพลงเอเชียน้อยกว่า
ใครชอบแบบไหนมากกว่ากัน ก็เลือกใช้แอปได้ตามรสนิยม
 
แต่ถ้าฟังแนวไหนก็ได้ แต่ยังลังเลว่าตัวเองเหมาะกับแอปไหนมากกว่า สามารถดูตารางสรุปเปรียบเทียบและเลือกกันตามที่สะดวกได้เลย!
vip1_1

author:

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save